รับสมัครตัวแทนประกันชีวิต Parttime สำหรับซื้อเองและซื้อให้ครอบครัว

คุณสมบัติสินค้า:

หมวดหมู่ : Applymuangthaiagent

Share

รับสมัครตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิตที่ต้องการซื้อประกันให้ตัวเองและครอบครัว

เพียงคุณสมัครเป็นตัวแทนกับประกันชีวิตกับเรา เพื่อซื้อประกันชีวิตให้กับตัวเอง และครอบครัว  คุณคิดถูกแล้วเพราะเมื่อคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตคุณจะต้องอบรม และสอบใบอนุญาตตัวเแทน ทำให้ได้ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับหลักการประกันชีวิต  พรบ  และกฏหมายเกี่ยวกับธุรกิจประกันชีวิต  จากนั้นจะได้รับการอบรมเกี่ยวกับแบบประกันข้อดีข้อเสียของแบบประกัน  และสามารถวิเคราะห์และเลือกแบบได้ตรงตามที่ต้องการ


นอกจากนี้หากคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต ก็จะต้องสังกัดฝ่ายขาย และมีผู้จัดการขายที่มีประสบการณ์ คอยแนะนำ ให้ความรู้ แก้ปัญหา และตอบคำถามที่คุณต้องการทราบ ทั้งสอนกระบวนการขั้นตอนการขาย  การตรวจสุขภาพ การเคลมเมื่อเจ็บป่วย เหมือนเป็นผู้ช่วยในการทำงาน เหมือนมีทีมงานคอยช่วยเหลือ

สมัครเป็นตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิตมีผลประโยชน์อะไรบ้าง
เมื่อคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพื่อซื้อประกันชีวิต ประกันสุขภาพ  ประกันลดหย่อนภาษีให้กับตนเองหรือครอบครัว สิ่งที่คุณจะได้รับคือ

1.รายได้จากการขายคอมมิชชั่น 1 - 30%  เช่น นำเสนอเบี้ยประกันออมทรัพย์ 25/16 เบี้ยประกัน 20,000 บาท คอมมิชชั่น 30% จะได้ผลตอบแทน 6,000 บาท

 2. สำหรับตัวแทนใหม่ 4 เดือนแรก หากทำคอมมิชชั่นได้ตามข้อที่ 1 คือคอมมิชชั่น 4,000 - 6,000 บาท ตามแผนที่เลือก บริษัทจ่ายเงินส่งเสริม เพิ่มอีก 4,000 - 6,000 บาท ดังนั้นจะได้เงินคอมมิชชั่น+เงินส่งเสริม รวม 8,000 - 12,000 บาท/เดือน เช่น เลือกแผน 6,000 บาท ต้องขายได้คอมมิชชั่นรวม 6,000 บาท จะได้เงินส่งเสริมอีก 6,000 บาท รวมรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน (ต้องอบรมหลักสูตร A1 = 2 วันภายในเดือนแรก และ หลักสูตร A2 = 2 วัน ภายในเดือนที่ 2 จึงจะได้เงินส่งเสริม 4,000 - 6,000 บาท)

 3. รับเงินโบนัสประจำไตรมาสทุก 3 เดือนในอัตรา 15 - 30% เช่น ภายใน 3 เดือนทำคอมมิชชั่นเดือนละ 7,000 บาท 3 เดือน รวม 21,000 x 15% จะได้รับโบนัสไตรมาสอีก  3,150 บาท    

 4. รับเงินโบนัสต่ออายุ ถ้าหากเป็นตัวแทน 2 ปีขึ้นไปและมีลูกค้ามากเพียงพอ หาก ลูกค้าชำระเบี้ยปีต่ออายุ เช่น คอมมิชชั่น 500,000 บาทต่อปี และอัตราต่ออายุ 90% รับเงินโบนัสต่ออายุ 10% เท่ากับ 50,000 บาทต่อปี

 5. เบี้ยปีต่ออายุปีที่ 2 เป็นต้นไป หากลูกค้าชำระเบี้ยต่ออายุ ก็จะได้คอมมิชชั่นทุกปี จนครบกำหนดชำระเบี้ย เช่น ลูกค้าทำประกันออมทรัพย์ 25/16 ชำระเบี้ย 16 ปี ก็จะได้รับคอมมิชชั่นทุกปีจนครบ 16 ปี

6. นอกจากนี้ยังสามารถแนะนำครอบครัว เพื่อน ๆ คนรู้จัก ให้ทำประกันชีวิต ประกันออมทรัพย์ ประกันสุขภาพ และได้รับคอมมิชชั่น โดยมีโอกาสได้คอยแนะนำเพื่อนๆ คนรู้จัก กรณีเจ็บป่วยถือว่าช่วยจ่ายค่ารักษา  หากเสียชีวิตก็ใส่ซองงานศพจากประกันชีวิต 1-2 ล้านบาท ถือเป็นคุณค่าของอาชีพตัวแทนประกันชีวิต

ถือว่าเป็นงานและอาชีพที่ WIN - WIN ทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย


สมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตอิสระเรื่องเวลาในการทำงาน     

ในการสมัครตัวแทนประกันชีวิต สามารถขายประกันแบบออนไลน์อยู่ที่ไหนก็ขายประกันได้ เช่น อยู่ที่บ้านก็ขายได้ อยู่ในร้านกาแฟก็ขายได้  ไปทำธุระนอกบ้านก็สามารถขายได้  หรือเข้าไปใช้บริการในสาขาของบริษัททั่วประเทศ จะสาขาในจังหวัด หรือในห้างสรรพสินค้าก็สามารถใช้บริการได้ หรือพาลูกค้าไปคุยที่สาขาก็ได้  และถ้าไม่อยากออกจากบ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาที่บริษัทหรือสำนักงาน  ทำงานที่บ้านได้เลย

สนใจสมัครตัวแทนประกันชีวิตติดต่อได้ที่

กรณ์ธินันท์  ดำรงเวชวาณิชย์ (เบิร์ด)

ผู้จัดการขาย เมืองไทยประกันชีวิต





เป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยไม่ต้องลงทุนเอง

เชื่อว่านักศึกษาจบใหม่ หรือพนักงานบริษัทหลายคนมีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจเช่น เปิดร้านกาแฟ แต่ก็มีเรื่องเงินลงทุนที่ต้องเตรียมก่อนเปิดร้าน ได้แก่ ค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน  ต้นทุนสต๊อกสินค้า หรือเงินมุนเวียนภายในร้าน  ยังไม่รวมปัญหาต่าง ๆที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น ยอดขาย  การทำการตลาด และปัญหาพนักงานลาออกบ่อย  แต่ถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้จะน้อยลงหรือหมดไป เพราะธุรกิจประกันชีวิต ไม่ต้องลงทุนมากมาย  ไม่ต้องเช่าร้าน ไม่ต้องจ้างพนักงาน  ไม่ต้องเสียเงินสต๊อกสินค้า  ไม่ต้องมีเงินหมุนเวียนในร้าน เพราะมีบริษัทประกันชีวิตลงทุนให้ รับผิดชอบเพียงยอดขายและการทำการตลาดกับลูกค้า แต่ได้รับผลตอบแทนหรือกำไรจากการขาย 1- 30%  และไม่มีเพดานจำกัด ทำงานมากติดต่อลูกค้าได้มาก ผลตอบแทนสูง แต่ทำน้อยก็ได้น้อยเช่นกันด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้ามีธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนแต่ได้ผลตอบแทนสูงถึง 30%


สมัครตัวแทนประกันชีวิตง่าย ๆ เพียง 6 ขั้นตอนดังนี้

1.แจ้งชื่อ-นามสกุล/เลขบัตรประชาชน
2.สอบใบอนุญาตตัวแทนที่บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่รัชดาภิเษก
3.หลังจากสอบผ่าน เข้าอบรมออนไลน์ผ่านระบบออนไลน์ 1 วัน(ครบ 6 ชม.)
4.หลังจากอบรมผ่านแล้วส่งเอกสารเพื่อแต่งตั้งเป็นตัวแทนของบริษัท
5.เข้าอบรมความรู้แบบประกันและกระบวนการขาย 2 หลักสูตร A1 และ A2 รวม 4 วัน
6.สามารถเริ่มขายประกันได้

เอกสารที่ใช้สมัครตัวแทนประกันชีวิต

1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน 3 ชุด
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด
3. สำเนาวุฒิการศึกษา 1 ชุด
4. รูปถ่าย 1 นิ้ว 3 รูป
5. สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น 1 ชุด
6. เอกสารคนค้ำประกัน 1 ชุด
 
ค่าใช้จ่ายในการสมัครตัวแทนประกันชีวิต

1.ค่าสอบขอรับใบอนุญาตตัวแทน 200 บาท

2.ค่าขอรับใบอนุญาตตัวแทน 300 บาท

3. ค่าตรวจสอบประวัติบุคคล 130 บาท

รวมค่าใช้จ่าย 630 บาท 

หลังจากอบรมและสอบใบอนุญาตตัวแทนผ่านแล้ว ต้องทำอย่างไร 

 1. เตรียมเอกสารเพื่อเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนประกันชีวิต และผู้ค้ำประกัน 1 คน
 2. เข้าอบรมหลักสูตรกระบวนการขายเบื้องต้น A1 ใช้เวลา 3 วัน และ หลักสูตรผลิตภัณฑ์ สินค้าของบริษัท A2 ใช้เวลา 2 วัน  โดยมีทั้งวันธรรมดา เสาร์-อาทิตย์ 
3. ออกพบลูกค้าและผู้มุ่งหวัง โดยมีทีมงานช่วยในการขายและตอบข้อซักถามของลูกค้า 
4. อบรมหลักสูตรต่าง ๆ เพิ่มเติม
 

ทำไมต้องสมัครตัวแทนประกันชีวิตกับบริษัทเมืองไทยประกันชีวิต

1. เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ และสินค้าเกี่ยวกับประกันชีวิต แบบประกันที่ดีหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และผู้มุ่งหวัง เช่น ประกันสุขภาพอีลิทเฮลท์  ดีเฮลท์  ประกันสุขภาพแบบ OPD ประกันโรคร้ายแรง  ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี  ประกันอุบัติเหตุ  ประกันชีวิตควบการลงทุน Unit link ประกันผู้สูงอายุเมืองไทยวัยเก๋า เหมาะสมและตรงกับความต้องการทุกเพศทุกวัย 

2. เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ทั้งโฆษณาต่างๆ และสื่อต่าง ๆ มากมาย
 
3. เป็นบริษัทประกันชีวิตของคนไทย เปิดทำการมากว่า 60 ปี และเป็นบริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย มีความมั่นคงมายาวนาน เปิดสาขาในประเทศไทยทั้งกรุงเทพ ปริมณฑล และต่างจังหวัด มากมายกว่า 100 สาขาทั่วประเทศ ตัวแทนประกันชีวิตทำงานได้ง่าย ใช้บริการได้ทุกสาขาทั่วประเทศ
 
4. เป็นบริษัทได้รับรางวัลบริหารงานดีเด่น 14 ปีซ้อน
 
5. เป็นบริษัทประกันชีวิตของคนรุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ในการทำงานของตัวแทน
 

อาชีพตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินมีคุณค่าต่อสังคม

อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ และช่วยสร้างหลักประกันให้กับทุกครอบครัวเพียงคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนทั่วไป หากสูญเสียหัวหน้าครอบครัว  ภรรยา และลูก ก็ไม่ลำบาก ลูกๆได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตามที่พ่อแม่ตั้งใจ  เพราะมีเงินสินไหมจากประกันชีวิตดูแลค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ หากคนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง เจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล  เพราะมีประกันสุขภาพช่วยจ่ายค่ารักษาแทน โดยไม่ต้องใช้เงินเก็บมาใช้จ่ายค่ารักษาที่แพงในปัจจุบัน  หากมีคนในครอบครัว หรือคนรู้จักเสียชีวิต อย่างน้อยเงินสินไหมจากประกันชีวิต ก็นำมาใช้จ่ายในงานศพ  โดยไม่ต้องไปกู้ยืม หรือใช้เงินเก็บมาเป็นค่าใช้จ่ายงานศพ ไม่ต้องลำบากลูกหลาน หรือครอบครัว หรือคนที่อยู่ข้างหลังเห็นมั้ยครับ เพียงคุณสมัครตัวแทนประกันชีวิตคุณสามารถช่วยเหลือคนได้มากมาย เป็นงานที่ได้ประโยชน์กับคนทั่วไปอย่างมาก

รายได้หลังจากสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
        มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะรู้ว่ารายได้เมื่อสมัครเป็นตัวแทนประกัน เป็นอย่างไร และผลตอบแทน
รายได้เท่าไหร่ 1. รายได้จากการขายคอมมิชชั่น 1 - 30%  เช่น นำเสนอเบี้ยประกันออมทรัพย์ 25/16 เบี้ยประกัน 20,000 บาท คอมมิชชั่น 30% จะได้ผลตอบแทน 6,000 บาท

 2. สำหรับตัวแทนใหม่ 4 เดือนแรก หากทำคอมมิชชั่นได้ตามข้อที่ 1 คือคอมมิชชั่น 4,000 - 6,000 บาท ตามแผนที่เลือก บริษัทจ่ายเงินส่งเสริม เพิ่มอีก 4,000 - 6,000 บาท ดังนั้นจะได้เงินคอมมิชชั่น+เงินส่งเสริม รวม 8,000 - 12,000 บาท/เดือน เช่น เลือกแผน 6,000 บาท ต้องขายได้คอมมิชชั่นรวม 6,000 บาท จะได้เงินส่งเสริมอีก 6,000 บาท รวมรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน (ต้องอบรมหลักสูตร A1 = 2 วันภายในเดือนแรก และ หลักสูตร A2 = 2 วัน ภายในเดือนที่ 2 จึงจะได้เงินส่งเสริม 4,000 - 6,000 บาท)

 3. รับเงินโบนัสประจำไตรมาสทุก 3 เดือนในอัตรา 15 - 30% เช่น ภายใน 3 เดือนทำคอมมิชชั่นเดือนละ 7,000 บาท 3 เดือน รวม 21,000 x 15% จะได้รับโบนัสไตรมาสอีก  3,150 บาท    

 4. รับเงินโบนัสต่ออายุ ถ้าหากเป็นตัวแทน 2 ปีขึ้นไปและมีลูกค้ามากเพียงพอ หาก ลูกค้าชำระเบี้ยปีต่ออายุ เช่น คอมมิชชั่น 500,000 บาทต่อปี และอัตราต่ออายุ 90% รับเงินโบนัสต่ออายุ 10% เท่ากับ 50,000 บาทต่อปี

 5. เบี้ยปีต่ออายุปีที่ 2 เป็นต้นไป หากลูกค้าชำระเบี้ยต่ออายุ ก็จะได้คอมมิชชั่นทุกปี จนครบกำหนดชำระเบี้ย เช่น ลูกค้าทำประกันออมทรัพย์ 25/16 ชำระเบี้ย 16 ปี ก็จะได้รับคอมมิชชั่นทุกปีจนครบ 16 ปี

ตอบข้อสงสัยถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต จะทำได้จริงเหรอ ?

1. ไม่รู้จะหาลูกค้าจากที่ไหน  กลัวเป็นตัวแทนแล้วหาลูกค้าไม่ได้
     หากคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตก็จะมีผู้จัดการและทีมงานดูแลช่วยในการขาย  โดยลูกค้าจะมี 2 กลุ่มคือ  

1.1 กลุ่มคนรู้จัก
     ได้แก่ ตัวเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง  เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าใกล้ตัวนี้ ควรจะนำเสนอก่อน เพราะ เวลากลุ่มคนนี้ เจ็บป่วย หรือป่วยเป็นมะเร็ง ต้องนอนโรงพยาบาล หากคุณเป็นสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตแล้ว นอกจากไปเยี่ยมเฉย ๆ ถ้าเขาไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลเพียงพอแล้วคุณยังสามารถช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล  ค่าชดเชยเมื่อต้องนอนโรงพยาบาล  หรือถ้าเพื่อนสนิทของคุณเสียชีวิต คุณจะใส่ซองงานศพ 500 - 1,000 บาท หรือจะจ่ายเป็นเช็คเงินสด 1,000,000 บาท จากประกันชีวิต มอบให้ภรรยาและลูกๆ ของเพื่อนครับ ???
 

1.2 กลุ่มคนไ่ม่รู้จัก
     ปัจจุบันมีการทำการตลาดออนไลน์ เช่น Line Facebook Instagram หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมายในการหาลูกค้าที่ไม่รู้จัก สำหรับนักศึกษา คนรุ่นใหม่  หรือคนที่ใช่นสื่อออนไลน์เป็นประจำ นอกจากต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 700-800 บาท แล้วสามารถใช้อินเตอร์เน็ตหาเงินออนไลน์ด้วยการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต แล้วหาลูกค้าจาก Line facebook กันดีกว่านะครับ  นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีช่องทางการ ออกบูธ จัดกิจกรรมใน ห้างสรรพสินค้างานอีเว้นท์ต่าง ๆ  หรือโรงพยาบาล  รวมทั้งการจัดอบรมและบรรยายนอกสถานที่ราชการและบริษัทต่าง ๆ  เป็นช่องทางหาลูกค้าได้อีกด้วย
 
2. ขายไม่เป็น พูดไม่เก่ง  ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
      ในการเป็นตัวแทนประกันชีวิตหลังจากอบรมและสอบผ่านแล้ว  ทางบริษัทจะต้องทำการอบรมกระบวนการขาย และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ให้กับตัวแทนใหม่ ก่อนที่จะออกไปแนะนำลูกค้า  เหมือนกับนักศึกษาทุกคนต้องมีการฝึกงาน 2-3 เดือน ก่อนที่จะจบการศึกษา  หรือเหมือนกับพนักงานใหม่ที่ต้องมีการทดลองงาน 4 เดือน ซึ่งจะมีการสอนงานก่อนทำงานจริง  และในธุรกิจประกันชีวิตก็เช่นเดียวกัน ต้องมีการสอนงาน และประกบคู่ช่วยกันนำเสนอลูกค้า เหมือนการทำงานกลุ่ม และการทำงานเป็นทีม ถ้าช่วยกันนำเสนอ และอธิบาย หากขายได้ทีมงานก็จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน  เริ่มแรกอาจจะต้องให้ตัวแทนอาวุโส หรือผู้จัดการนำเสนอขายให้ดูก่อน 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตและฝึกฝนจนขายได้ครับ
      สำหรับบางท่านที่คิดว่าอาชีพตัวแทนประกันชีวิตต้องพูดเก่ง คุยเก่ง  โดยอาชีพพนักงานขาย ทักษะที่สำคัญ ต้องพูดเก่ง คุยเก่ง จึงจะขายได้จริงครับ  แต่อาชีพตัวแทน  ที่ปรึกษาประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นั้นแตกต่างกัน  ทักษะที่สำคัญคือการฟังและการถาม คือ  รับฟังปัญหาของลูกค้า และสอบถามความต้องการของลูกค้า และนำมาวิเคราะห์ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม  และนำเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า  แล้วก็จะขายได้ครับ

3. ไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จักว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต ???
       เป็นเรื่องจริงที่หลายคนไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนในที่ทำงาน ว่ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต  นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ขายไม่ได้  เพราะถ้าไม่เปิดตัวหรือบอกใครต่อใครว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต แน่นอนว่าไม่มีทางขายได้แน่นอน  แต่มีข้อเสียนะครับ เพราะบางที ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เหล่านี้  อาจจะกำลังมองหาประกันชีวิต ประกันสุขภาพอยู่ก็ได้ 

        ถ้าเราไม่กล้าบอกว่าเราเป็นตัวแทน เขาอาจจะไปซื้อกับคนอื่นก็ได้ ทำให้เราเสียโอกาสที่จะขายได้ ซึ่งอยากจะแนะนำทุกท่านที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิตว่า  " วันนี้ที่เข้ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพราะได้เข้ามาอบรมและศึกษาธุรกิจประกันชีวิต แล้วเห็นว่ามีประโยชน์ต่อครอบครัวและคนที่รู้จัก ยกตัวอย่าง หากเพื่อนป่วยเป็นมะเร็ง ถ้าไม่ได้เป็นตัวแทนประกัน ก็แค่ไปเยี่ยม และพูดว่าหายเร็ว ๆ นะ    แต่ถ้าเป็นตัวแทนประกันสามารถนำเสนอประกันคุ้มครองมะเร็ง และไปเยี่ยม พร้อมกับพูดว่า หายเร็ว ๆ นะ เดี๋ยวเราจะเอาเช็คประกัน 1 ล้านบาทมามอบให้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาตัว " โดยขอให้คิดเสมอว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไปช่วยแก้ปัญหา ถ้าเขาไม่ต้องการเราก็ไปเสนอคนอื่น ๆ ได้ครับ  เจอใครขอให้บอกไปเลยว่าเราเป็นตัวแทนประกันชีวิต  ไม่ต้องกลัวครับ
 

สนใจสมัครตัวแทนประกันชีวิตติดต่อได้ที่

กรณ์ธินันท์ ดำรงเวชวาณิชย์ (เบิร์ด)
ผู้จัดการขายเมืองไทยประกันชีวิต

 
 
Powered by MakeWebEasy.com