หมวดหมู่ : Applymuangthaiagent , 
Share
สมัครตัวแทนกับประกันชีวิต อาชีพอิสระเรื่องเวลาการทำงาน รายได้ ความก้าวหน้า อาชีพสร้างอนาคต มีชื่อเสียงเกียรติยศ และเป็นประโยชน์ต่อสังคม เหมาะสมกับทุกอาชีพไม่ว่าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ นักศึกษาจบใหม่ พนักงานบริษัท ข้าราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ก็สามารถเข้ามาสมัครตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงินกับเราได้ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของกิจการและนักธุรกิจ กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ เช่น แพทย์ พยาบาล นักบัญชี วิศวกร ทนายความ สถาปัตย์ พ่อบ้าน แม่บ้าน วัยเกษียณ หรือใครที่กำลังว่างงาน ตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน ก็สามารถเข้ามาสมัครตัวแทนประกันชีวิตกับเราได้ ต่อยอดทางธุรกิจ เป็นรายได้เสริม ระหว่างตกงานหรือกำลังหางานประจำไม่ว่าจะทำแบบ Parttime หรือ Fulltime ก็สามารถสมัครตัวแทนประกันชีวิตได้
"ใครมีงานประจำทำอยู่แล้ว ไม่ต้องลาออก ทำเป็น Parttime ควบคู่งานประจำได้ "
สมัครตัวแทนเมืองไทยประกันชีวิตมีอิสระเรื่องเวลาการทำงาน
อิสระเรื่องเวลาการทำงานไม่ว่าจะว่างงาน ทำงานประจำ พนักงานบริษัท ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้า แม่บ้าน นักศึกษา ก็สามารถสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตได้ เพราะเลือกเวลาทำงานได้ทั้งแบบเต็มเวลา Fulltimeหรือใช้เวลา 2 - 3 ชั่วโมง หลังเลิกงาน หรือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ สมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต Parttime ได้
อิสระเรื่องรายได้ และผลตอบแทนด้วยคอมมิชชั่นจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และการเงิน รายได้คอมมิชชั่นเริ่มต้น 1 - 30% รวมทั้งเงินส่งเสริมรายเดือน รวมทั้งโบนัสทุกๆ 3 เดือนรวมทั้งโบนัสรายปี ในสภาวะเศรษฐกิจและ ภาวะโรค COVID-19 ถ้าตกงาน หรือถูกลดเงินเดือน หรือไม่สามารถประกอบอาชีพได้ ถ้ามีอีกอาชีพหนึ่งเพิ่มรายได้ ให้คุณ เป็นกระเป๋าเงินพิเศษเพิ่มขึ้นมา โดยไม่ต้องใช้เงินลงทุน คุณคิดว่าดีไหมครับ ถ้าจะสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต
อิสระเรื่องเวลาและวันหยุดที่ได้อยู่กับครอบครัว บางท่านมีครอบครัวต้องไปรับส่งลูกไปโรงเรียนและรับกลับตอนบ่าย 2-3 โมง หากสมัครตัวแทนประกันชีวิต สามารถแบ่งและเลือกเวลาไปรับ-ส่งลูกได้ และสามารถเลือกวันหยุดได้เอง ไม่จำเป็นต้องหยุดทุกเสาร์-อาทิตย์ วันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ ก็สามารถหยุดหรือไปทำธุระส่วนตัวได้ ไม่ต้องไปเบียดเสียดกัน ซื้อของในห้างในวันหยุด หรือในวันที่ลูกหยุดปิดเทอม สามารถหยุดยาว ๆ ไปเที่ยวกับลูกๆ ได้โดยไม่ต้องขอลาพักร้อนที่ไม่รู้ว่าจะได้หยุดหรือไม่
อิสระเรื่องความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ไม่ต้องรอให้อายุงานครบการโครงสร้างบริษัท ไม่ต้องรอให้ผู้จัดการหรือหัวหน้าเซ็นอนุมัติเลื่อนตำแหน่ง ไม่ต้องแช่งหรือกลั่นแกล้ง เพื่อนร่วมงานที่เข้ามาก่อนให้ลาออก สามารถเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการได้เร็วสุดภายในเวลา 1 ปี 4 เดือน เลื่อนเป็นผู้จัดการภาคภายใน 3 ปี 4 เดือน และสามารถเลื่อนเป็น ผู้ช่วยผู้อำนวยการภายใน 4 ปี 4 เดือน หากเป็นโครงสร้างบริษัททั่วไปอาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 - 10 ปี กว่าจะขึ้นตำแหน่งผู้จัดการ และ ใช้เวลา 10-15 ปี กว่าจะขึ้นต่ำแหน่ง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ แต่ถ้าคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต และก้าวเป็นผู้บริหารระดับสูงใช้เวลาเพียง 4 ปี 4 เดือน และบริหารทีมงานอย่างอิสระ ไม่ต้องอยู่ใต้บังคับบัญชาของใคร
เป็นเจ้าของธุรกิจได้ โดยไม่ต้องลงทุนเอง
เชื่อว่านักศึกษาจบใหม่ หรือพนักงานบริษัทหลายคนมีความฝันที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจเช่น เปิดร้านกาแฟ แต่ก็มีเรื่องเงินลงทุนที่ต้องเตรียมก่อนเปิดร้าน ได้แก่ ค่าเช่าร้าน ค่าจ้างพนักงาน ต้นทุนสต๊อกสินค้า หรือเงินหมุนเวียนภายในร้าน ยังไม่รวมปัญหาต่าง ๆที่จะตามมา ไม่ว่าจะเป็น ยอดขาย การทำการตลาด และปัญหาพนักงานลาออกบ่อย แต่ถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน ปัญหาต่าง ๆเหล่านี้จะน้อยลงหรือหมดไป เพราะธุรกิจประกันชีวิต ไม่ต้องลงทุนมากมาย ไม่ต้องเช่าร้าน ไม่ต้องจ้างพนักงาน ไม่ต้องเสียเงินสต๊อกสินค้า ไม่ต้องมีเงินหมุนเวียนในร้าน เพราะมีบริษัทประกันชีวิตลงทุนให้ รับผิดชอบเพียงยอดขายและการทำการตลาดกับลูกค้า แต่ได้รับผลตอบแทนหรือกำไรจากการขาย 1- 30% และไม่มีเพดานจำกัด ทำงานมากติดต่อลูกค้าได้มาก ผลตอบแทนสูง แต่ทำน้อยก็ได้น้อยเช่นกันด้วยสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้ามีธุรกิจที่ไม่ต้องลงทุนแต่ได้ผลตอบแทนสูงถึง 30%
อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอีกอาชีพที่มีอิสระในการทำงาน ได้แก่ อิสระด้านเวลาการทำงาน ไม่ต้องตอกบัตรเข้าทำงาน 8 โมงเช้า - ออก 5 โมงเย็นเลือกเวลาการทำงานและวันหยุดเองได้อิสระเรื่องรายได้โดยมีรายได้อิสระตามความสามารถของตัวเอง ขยันทำงานมาก ๆ มีรายได้มากอิสระเรื่องความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน หากสามารถทำผลงานตามที่กำหนด ก็สามารถเลื่อนตำแหน่งระดับสูงได้ไม่ต้องมีอายุงาน หรือวัยวุฒิ มากำหนดความสามารถของคุณ
1.แจ้งชื่อ-นามสกุล/เลขบัตรประชาชน
2.สอบใบอนุญาตตัวแทนที่บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต สำนักงานใหญ่รัชดาภิเษก
3.หลังจากสอบผ่าน เข้าอบรมออนไลน์ผ่านระบบออนไลน์ 1 วัน(ครบ 6 ชม.)
4.หลังจากอบรมผ่านแล้วส่งเอกสารเพื่อแต่งตั้งเป็นตัวแทนของบริษัท
5.เข้าอบรมความรู้แบบประกันและกระบวนการขาย 2 หลักสูตร A1 และ A2 รวม 4 วัน
6.สามารถเริ่มขายประกันได้
1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เอาประกัน 3 ชุด
2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด
3. สำเนาวุฒิการศึกษา 1 ชุด
4. รูปถ่าย 1 นิ้ว 3 รูป
5. สำเนาบัญชีธนาคารกสิกรไทยเท่านั้น 1 ชุด
ค่าใช้จ่ายในการสมัครตัวแทนประกันชีวิต
1.ค่าสอบขอรับใบอนุญาตตัวแทน 200 บาท
2.ค่าขอรับใบอนุญาตตัวแทน 300 บาท
3. ค่าตรวจสอบประวัติบุคคล 130 บาท
รวมค่าใช้จ่าย 630 บาท
1. เป็นบริษัทที่มีผลิตภัณฑ์ และสินค้าเกี่ยวกับประกันชีวิต แบบประกันที่ดีหลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และผู้มุ่งหวัง เช่น ประกันสุขภาพอีลิทเฮลท์ ดีเฮลท์ ประกันสุขภาพแบบ OPD ประกันโรคร้ายแรง ประกันออมทรัพย์ ลดหย่อนภาษี ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิตควบการลงทุน Unit link ประกันผู้สูงอายุเมืองไทยวัยเก๋า เหมาะสมและตรงกับความต้องการทุกเพศทุกวัย
อาชีพตัวแทนประกันชีวิต เป็นอาชีพที่ช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ และช่วยสร้างหลักประกันให้กับทุกครอบครัวเพียงคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต คุณก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนทั่วไป หากสูญเสียหัวหน้าครอบครัว ภรรยา และลูก ก็ไม่ลำบาก ลูกๆได้เรียนหนังสือจนจบปริญญาตามที่พ่อแม่ตั้งใจ เพราะมีเงินสินไหมจากประกันชีวิตดูแลค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ หากคนรู้จัก หรือญาติพี่น้อง เจ็บป่วยไม่สบาย ก็ไม่กังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะมีประกันสุขภาพช่วยจ่ายค่ารักษาแทน โดยไม่ต้องใช้เงินเก็บมาใช้จ่ายค่ารักษาที่แพงในปัจจุบัน หากมีคนในครอบครัว หรือคนรู้จักเสียชีวิต อย่างน้อยเงินสินไหมจากประกันชีวิต ก็นำมาใช้จ่ายในงานศพ โดยไม่ต้องไปกู้ยืม หรือใช้เงินเก็บมาเป็นค่าใช้จ่ายงานศพ ไม่ต้องลำบากลูกหลาน หรือครอบครัว หรือคนที่อยู่ข้างหลังเห็นมั้ยครับ เพียงคุณสมัครตัวแทนประกันชีวิตคุณสามารถช่วยเหลือคนได้มากมาย เป็นงานที่ได้ประโยชน์กับคนทั่วไปอย่างมาก
รายได้หลังจากสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตเป็นอย่างไรบ้าง
มาถึงตรงนี้หลายคนคงอยากจะรู้ว่ารายได้เมื่อสมัครเป็นตัวแทนประกัน เป็นอย่างไร และผลตอบแทนรายได้เท่าไหร่
1. รายได้จากการขายคอมมิชชั่น 1 - 30% เช่น นำเสนอเบี้ยประกันออมทรัพย์ 25/16 เบี้ยประกัน 20,000 บาท คอมมิชชั่น 30% จะได้ผลตอบแทน 6,000 บาท
2. สำหรับตัวแทนใหม่ 4 เดือนแรก หากทำคอมมิชชั่นได้ตามข้อที่ 1 คือคอมมิชชั่น 4,000 - 6,000 บาท ตามแผนที่เลือก บริษัทจ่ายเงินส่งเสริม เพิ่มอีก 4,000 - 6,000 บาท ดังนั้นจะได้เงินคอมมิชชั่น+เงินส่งเสริม รวม 8,000 - 12,000 บาท/เดือน เช่น เลือกแผน 6,000 บาท ต้องขายได้คอมมิชชั่นรวม 6,000 บาท จะได้เงินส่งเสริมอีก 6,000 บาท รวมรายได้ 12,000 บาทต่อเดือน (ต้องอบรมหลักสูตร A1 = 2 วันภายในเดือนแรก และ หลักสูตร A2 = 2 วัน ภายในเดือนที่ 2 จึงจะได้เงินส่งเสริม 4,000 - 6,000 บาท)
3. รับเงินโบนัสประจำไตรมาสทุก 3 เดือนในอัตรา 15 - 30% เช่น ภายใน 3 เดือนทำคอมมิชชั่นเดือนละ 7,000 บาท 3 เดือน รวม 21,000 x 15% จะได้รับโบนัสไตรมาสอีก 3,150 บาท
4. รับเงินโบนัสต่ออายุ หากเป็นตัวแทน 2 ปีขึ้นไปและมีลูกค้ามากเพียงพอ หาก ลูกค้าชำระเบี้ยปีต่ออายุ เช่น คอมมิชชั่น 500,000 บาทต่อปี และอัตราต่ออายุ 90% รับเงินโบนัสต่ออายุ 10% เท่ากับ 50,000 บาทต่อปี
5. เบี้ยปีต่ออายุปีที่ 2 เป็นต้นไป หากลูกค้าชำระเบี้ยต่ออายุ ก็จะได้คอมมิชชั่นทุกปี จนครบกำหนดชำระเบี้ย เช่น ลูกค้าทำประกันออมทรัพย์ 25/16 ชำระเบี้ย 16 ปี ก็จะได้รับคอมมิชชั่นทุกปีจนครบ 16 ปี
ตอบข้อสงสัยถ้าสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต จะทำได้จริงเหรอ ?
ไม่รู้จะหาลูกค้าจากที่ไหน กลัวเป็นตัวแทนแล้วหาลูกค้าไม่ได้
หากคุณสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตก็จะมีผู้จัดการและทีมงานดูแลช่วยในการขาย โดยลูกค้าจะมี 2 กลุ่มคือ
1.1 กลุ่มคนรู้จัก
ได้แก่ ตัวเอง ครอบครัว ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น โดยกลุ่มลูกค้าใกล้ตัวนี้ ควรจะนำเสนอก่อน เพราะ เวลากลุ่มคนนี้ เจ็บป่วย หรือป่วยเป็นมะเร็ง ต้องนอนโรงพยาบาล หากคุณเป็นสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตแล้ว นอกจากไปเยี่ยมเฉย ๆ ถ้าเขาไม่มีสวัสดิการรักษาพยาบาลเพียงพอแล้วคุณยังสามารถช่วยเรื่องค่ารักษาพยาบาล ค่าชดเชยเมื่อต้องนอนโรงพยาบาล หรือถ้าเพื่อนสนิทของคุณเสียชีวิต คุณจะใส่ซองงานศพ 500 - 1,000 บาท หรือจะจ่ายเป็นเช็คเงินสด 1,000,000 บาท จากประกันชีวิต มอบให้ภรรยาและลูกๆ ของเพื่อนครับ ???
1.2 กลุ่มคนไ่ม่รู้จัก
ปัจจุบันมีการทำการตลาดออนไลน์ เช่น Line Facebook Instagram หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ มากมายในการหาลูกค้าที่ไม่รู้จัก สำหรับนักศึกษา คนรุ่นใหม่ หรือคนที่ใช่นสื่อออนไลน์เป็นประจำ นอกจากต้องเสียค่าอินเตอร์เน็ตเดือนละ 700-800 บาท แล้วสามารถใช้อินเตอร์เน็ตหาเงินออนไลน์ด้วยการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต แล้วหาลูกค้าจาก Line facebook กันดีกว่านะครับ นอกจากนี้ทางบริษัทยังมีช่องทางการ ออกบูธ จัดกิจกรรมใน ห้างสรรพสินค้างานอีเว้นท์ต่าง ๆ หรือโรงพยาบาล รวมทั้งการจัดอบรมและบรรยายนอกสถานที่ราชการและบริษัทต่าง ๆ เป็นช่องทางหาลูกค้าได้อีกด้วย
2. ขายไม่เป็น พูดไม่เก่ง ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง
ในการเป็นตัวแทนประกันชีวิตหลังจากอบรมและสอบผ่านแล้ว ทางบริษัทจะต้องทำการอบรมกระบวนการขาย และความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ให้กับตัวแทนใหม่ ก่อนที่จะออกไปแนะนำลูกค้า เหมือนกับนักศึกษาทุกคนต้องมีการฝึกงาน 2-3 เดือน ก่อนที่จะจบการศึกษา หรือเหมือนกับพนักงานใหม่ที่ต้องมีการทดลองงาน 4 เดือน ซึ่งจะมีการสอนงานก่อนทำงานจริง และในธุรกิจประกันชีวิตก็เช่นเดียวกัน ต้องมีการสอนงาน และประกบคู่ช่วยกันนำเสนอลูกค้า เหมือนการทำงานกลุ่ม และการทำงานเป็นทีม ถ้าช่วยกันนำเสนอ และอธิบาย หากขายได้ทีมงานก็จะประสบความสำเร็จไปด้วยกัน เริ่มแรกอาจจะต้องให้ตัวแทนอาวุโส หรือผู้จัดการนำเสนอขายให้ดูก่อน 2-3 ครั้ง หลังจากนั้นก็ต้องสังเกตและฝึกฝนจนขายได้ครับ
สำหรับบางท่านที่คิดว่าอาชีพตัวแทนประกันชีวิตต้องพูดเก่ง คุยเก่ง โดยอาชีพพนักงานขาย ทักษะที่สำคัญ ต้องพูดเก่ง คุยเก่ง จึงจะขายได้จริงครับ แต่อาชีพตัวแทน ที่ปรึกษาประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นั้นแตกต่างกัน ทักษะที่สำคัญคือการฟังและการถาม คือ รับฟังปัญหาของลูกค้า และสอบถามความต้องการของลูกค้า และนำมาวิเคราะห์ สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม และนำเสนอให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า แล้วก็จะขายได้ครับ
3. ไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จักว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต ???
เป็นเรื่องจริงที่หลายคนไม่กล้าบอกญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เพื่อนในที่ทำงาน ว่ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ขายไม่ได้ เพราะถ้าไม่เปิดตัวหรือบอกใครต่อใครว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิต แน่นอนว่าไม่มีทางขายได้แน่นอน แต่มีข้อเสียนะครับ เพราะบางที ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก เหล่านี้ อาจจะกำลังมองหาประกันชีวิต ประกันสุขภาพอยู่ก็ได้ ถ้าเราไม่กล้าบอกว่าเราเป็นตัวแทน เขาอาจจะไปซื้อกับคนอื่นก็ได้ ทำให้เราเสียโอกาสที่จะขายได้ ซึ่งอยากจะแนะนำทุกท่านที่ไม่กล้าบอกว่าเป็นตัวแทนประกันชีวิตว่า " วันนี้ที่เข้ามาสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต เพราะได้เข้ามาอบรมและศึกษาธุรกิจประกันชีวิต แล้วเห็นว่ามีประโยชน์ต่อครอบครัวและคนที่รู้จัก ยกตัวอย่าง หากเพื่อนป่วยเป็นมะเร็ง ถ้าไม่ได้เป็นตัวแทนประกัน ก็แค่ไปเยี่ยม และพูดว่าหายเร็ว ๆ นะ แต่ถ้าเป็นตัวแทนประกันสามารถนำเสนอประกันคุ้มครองมะเร็ง และไปเยี่ยม พร้อมกับพูดว่า หายเร็ว ๆ นะ เดี๋ยวเราจะเอาเช็คประกัน 1 ล้านบาทมามอบให้เป็นค่าใช้จ่ายรักษาตัว " โดยขอให้คิดเสมอว่าเราใช้ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตไปช่วยแก้ปัญหา ถ้าเขาไม่ต้องการเราก็ไปเสนอคนอื่น ๆ ได้ครับ เจอใครขอให้บอกไปเลยว่าเราเป็นตัวแทนประกันชีวิต ไม่ต้องกลัวครับ
สนใจสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตติดต่อได้ที่
กรณ์ธินันท์ ดำรงเวชวาณิชย์ (เบิร์ด)
ผู้จัดการขาย เมืองไทยประกันชีวิต
"เปิดโอกาส เปิดใจ เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยทำ อาจเจอสิ่งที่ใช่สำหรับคุณ"